การบำรุงรักษาประตูม้วนเบื้องต้น

ในปัจจุบัน ประตูนั้นมีมากมายทำให้เรานั้นมีการเลือกใช้เยอะเหลือเกินเพราะประตูเป็นด่านแรกๆๆของบ้านเราทุกๆคน ทั้งประตูไม้ ประตูพลาสติก ประตูไวนิล หรือ ประตูเหล็กต่างๆ เพราะทุกๆๆวันนั้นเราต้องใช้ประตูจำพวกนี้ตลอดเวลาบางครั้งอาจมีการเสื่อม สึกหรอ ต้องมีการซ่อมบำรุงใหม่เพื่อให้อายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น สำหรับวันนี้ผมจะมาสอนวิธีการบำรุงตรวจเช็ค ประตูประเภทต่างๆ เพราะประตูเป็นด่านแรกของบ้านจึงมีความจำเป็นสูงมาก ยกตัวอย่าง ประตูชนิดหนึ่งที่นิยมใช้งานอย่างแพร่หลายนั่นคือ ประตูม้วน หรือ ศัพท์ช่างเรียกกัน  ประตูเหล็กม้วน

ประตูม้วนนั้น มีการใช้งาน การเริ่มต้นผลิต  ยาวนานกว่า 50ปี กลไกลของประตูม้วนนั้นมีองประกอบหลักๆ แค่ 3 อย่าง

1. กล่อง เพลาสปริง    

2. ใบประตูม้วน    

3.เสารางข้างรางประคองประตูม้วน

           กลไกลที่เหมือนจะง่ายๆแต่ไม่ง่ายนะทีเดียว หากบ้านใครมีการใช้งานประตูม้วนอยู่  วันนี้เรามีการซ่อมบำรุงประตูให้มีการใช้งานยาวนานมากขึ้น หากบ้านไหนมีการใช้งานแล้วมีอาการฝืด หนัก  ใบติดๆขัดให้ ดูองค์ประกอบ 3 อย่าง 

1. ใบประตูม้วน

2. เพลาประตูม้วน

3. การตั้งสปริงประตูม้วน

         ดูที่ใบประตูม้วนว่ามีการบิดงอหรือไม่ หากมี ให้ทำการดัด ใบประตูม้วนหรือหากมีจารบีให้ทาหัวเสาเลยก็ได้ จะทำให้การทำงานการขึ้นลงของประตูม้วนดีขึ้น

         ดูที่เพลา อันนี้ อาจยากหน่อยตรงที่ว่าจะต้องแกะกล่องประตูม้วนนั้นอาจทำได้ค่อนข้างยาก แต่หากทำได้ ท่านจะประหยัดเงินเพื่อจะได้ไม่ต้องจ้างช่าง จำนวนหลายพันบาททีเดียวเรามาเข้าเรื่องที่เพลาต่อ กลไกลของเพลาอาจเป็นหัวใจของประตูม้วน หากเพลาขาดก็จะทำอะไรไม่ได้เราอาจจะต้องเปลี่ยนอย่างเดียวแต่ถ้าเพลาไม่แค่ขาดเราแค่ตั้งสปริง ใหม่         
         การตั้งสปริงนั้นไม่ยากแต่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่าประมาทเด็ดขาดไม่งั้นอาจจะเจ็บตัวได้ ให้เรายืนที่ด้วนหน้าประตูม้วนสังเกตที่  ตัวตั้งสปริงจะอย่ด้านขวามือเสมอ  ทำการตั้งเข้าหาตัว หรือพูดง่ายๆดึงเข้าหาจัวเองจนสปิงได้ที่จิงทำการล๊อคสปิง แค่นี้   หรืออาจจะแถมการทาจารบี หรือน้ำมัน ทำการขันน๊อตที่ยึดเพลาสปิงเพิ่มเติม  ที่ตัวสปริงแค่นี้ประตูม้วนของท่านก็จะใช้งานได้อย่าง สมูทลื่นไหลและ ไม่สะดุด


         

    
         หลายวิธีในการดูและประตูม้วนหรือที่เรียก ประตูเหล็กม้วนนั้นบางครั้งการดูแลประตูม้วนหรือประตูเหล็กม้วนพวกนี้  ถ้าเข้าใจอาจประหยัดเงินของท่านเพราะเราเรียกช่างที่อาจต้องใช้งบ ตั้งแต่1000-3500บาทเลยทีเดียว เอาไปลองเป็นแนวทางดูนะครับว่าจะได้ใช้หรือป่าว